สิวผด เป็นสิวประเภทหนึ่งที่สามารถพบได้บ่อย มีลักษณะคล้ายกับผดผื่นเม็ดเล็กๆ นูนๆ กระจายทั่วใบหน้า โดยเฉพาะสิวผดที่หน้าผาก แก้ม ไรผม และขมับ เวลาสัมผัสจะรู้สึกไม่เรียบ แข็งเหมือนเม็ดทราย โดยทั่วไป สิวผดจะมีขนาดเท่าๆกัน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-2 มิลลิเมตร บางคนอาจมีอาการแสบและคันร่วมด้วย
สิวผดมักเห่อขึ้นในช่วงกลางวันที่อากาศร้อนชื้น หรือช่วงที่ต้องทำกิจกรรมหนักๆ เช่น ออกกำลังกาย โดยจะเห็นเป็นผื่นสีแดงขึ้นอย่างชัดเจน และหากสิวผดสัมผัสเข้ากับมือของเราที่เต็มไปด้วยแบคทีเรียและสิ่งสกปรก ก็จะเป็นการกระตุ้นให้สิวผดพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบ ซึ่งมีลักษณะเป็นตุ่มแดงและอาจมีตุ่มหนองร่วมด้วยได้
สาเหตุของสิวผดเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
1. เกิดจากแสงแดด และสภาวะอากาศที่ร้อนและอับชื้น เพราะแสงแดดและความร้อนส่งผลให้ต่อมไขมันทำงานหนัก และต่อมเหงื่ออุดตัน จนทำให้เกิดเป็นตุ่มเล็กๆ เหมือนเป็นผด และด้วยเหตุนี้นี่เอง สิวผดจึงมักหายตัวไปในช่วงเช้าที่มีอากาศเย็น และกลับมาเห่ออีกครั้งในช่วงบ่ายๆที่อากาศร้อน ประกอบกับสภาพอากาศในบ้านเราที่ร้อนกันทุกฤดูและแทบทุกวัน จึงทำให้หลายคนหลีกเลี่ยงสิวชนิดนี้ได้ยาก
2. เกิดจากการที่รูขุมขนอักเสบจากเชื้อราประเภทยีสต์ (Malassezia folliculitis หรือเดิมเรียกว่า Pityrosporum folliculitis) โดยทั่วไป เชื้อนี้สามารถพบได้เป็นปกติบนผิวหนังของทุกคน แต่หากต่อมไขมันทำงานมากผิดปกติ จะทำให้มีน้ำมันส่วนเกินที่กลายเป็นอาหารของยีสต์ชนิดนี้ ทำให้เชื้อเกิดการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดสิวผดได้
3. เกิดจากอาการแพ้ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาของร่างกายต่อสิ่งแวดล้อมภายนอก เช่น แพ้เหงื่อ แพ้น้ำ แพ้ฝุ่น แพ้อากาศร้อนหรือเย็นจัด
4. เกิดจากการระคายเคืองบนผิวหนัง เช่น การแพ้สารเคมีในเครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่สัมผัสกับผิวหนัง เช่น โฟมล้างหน้า แชมพู ครีมนวด
5. เกิดจากมลภาวะต่างๆ ในสิ่งแวดล้อมทั้งทางน้ำและทางอากาศ
1. ผู้ที่มีผิวมัน เหงื่อออกง่าย
2. การใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว เช่น คนที่มีผิวหน้าแห้ง แต่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวหน้ามัน ส่งผลให้ผิวหน้าแห้งมากขึ้น เกิดการระคายเคืองและกระตุ้นให้เกิดสิวผดได้
3. การนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ
4. ความเครียด
5. ฮอร์โมนเปลี่ยน เช่น ช่วงที่มีประจำเดือน หรือระหว่างการใช้ยาคุมกำเนิด
6. การเช็ดถูหน้าบ่อยๆ หรือการเช็ดถูหน้าแรงๆ
7. การใช้น้ำอุ่นล้างหน้าเป็นประจำ ทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง
8. การใช้อุปกรณ์แต่งหน้าที่ไม่สะอาด
9. การล้างหน้าไม่สะอาด รวมถึงเช็ดเครื่องสำอางออกไม่หมด
10. การสครับผิวหรือขัดผิวแรงๆ และบ่อยเกินไป จนกลายเป็นการรบกวนผิวหน้า ทำให้ผิวระคายเคืองตามมา
11. การใช้ยาปฏิชีวนะบางชนิดต่อกันเป็นเวลานาน
12. ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือใช้ยากดภูมิคุ้มกันเป็นเวลานาน เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์
วิธีรักษาสิวผด มีหลายวิธี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดสิวผด ได้แก่
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัส แกะเกา เช็ดถูใบหน้าบ่อยๆ เพราะมือของเราเต็มไปด้วยแบคทีเรียและสิ่งสกปรก ซึ่งทำให้เกิดสิวผดได้
2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้า โดยหลีกเลี่ยงเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว
3. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องเช็ดเครื่องสำอางออกให้หมด และล้างหน้าให้สะอาด รวมถึงหมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ในการแต่งหน้าเป็นประจำ
4. ล้างหน้าอย่างถูกวิธี วันละ 2-3 ครั้ง และหลังจากออกกำลังกาย เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก แบคทีเรีย และความมันบนใบหน้า
5. หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดร้อนจัดเป็นเวลานาน หากจะต้องออกไปตากแดด ควรกางร่มหรือสวมหมวก และทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกแดด เพื่อป้องกันอันตรายจากรังสี UV
6. ดูแลสุขภาพจิตให้แจ่มใส อย่าเครียดมากจนเกินไป และพักผ่อนให้เพียงพอ
7. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาสาเหตุ แนวทางการป้องกัน และวิธีรักษาสิวผดอย่างถูกต้อง
ที่ Puttharaksa Aesthetic เรามีโปรแกรมการรักษาสิวผด Acne Clear Plus โดยเริ่มจากการวิเคราะห์สาเหตุของการเกิดสิวผด เพื่อที่จะช่วยแก้สิวผดได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ การผลักวิตามิน และสารบำรุงต่างๆ เช่น Collagen, Vitamin A, Aloe Vera, Vitamin C และ Hyaluronic เข้าสู่ผิวหน้าอย่างอ่อนโยน ร่วมกับการมาส์กหน้าด้วย Acne Mask จะช่วยทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น ผื่นแพ้ และสิวผดลดลง และยังเป็นการลดโอกาสการกลับมาใหม่ของสิวอีกด้วย
การรักษาสิวเสี้ยนสามารถอ่านได้จาก วิธีกำจัดสิวเสี้ยนถาวร
ต้องการรักษาสิว »
ดูข้อมูล ทรีทเม้นท์หน้าทั้งหมด »
ในกรณีที่มีข้อสงสัยสามารถ นัดปรึกษาฟรีได้ที่ »
การเดินทางมาจาก อโศก | ทองหล่อ | เอกมัย | อ่อนนุช | บางจาก | อุดมสุข | บางนา | แบริ่ง
|