หนึ่งในหลายแนวทางการรักษาสิวคือการกดสิว ซึ่งการกดสิวมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ทำให้คนที่ต้องการรักษาสิวมักเกิดความกังวลและมีคำถามต่างๆ เช่น “การกดสิวดีไหม?” “กดสิวดีมั้ย?” “การกดสิวอุดตันดีไหม?” “กดสิวแล้วอักเสบไหม?” “กดสิวเจ็บไหม?”หรือ บางคนอยากจะทราบข้อมูลเกี่ยวกับ ผลเสียของการกดสิว กดสิวบ่อยแค่ไหน หรือกดสิวแล้วบวมแดงต้องทำอย่างไร เป็นต้น
ในปัจจุบันการกดสิวสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ แบบที่ใช้เลเซอร์และแบบที่ใช้เข็มในการเปิดรูขุมขน โดยที่แต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ดังนั้นในการอธิบายจะระบุประเภทของการกดควบคู่ไปด้วย เพื่อความเที่ยงตรงของข้อมูล
ผลดีของการกดสิว
—กดสิวดีอย่างไร
ผลเสียของการกดสิว
การกดสิวดีไหม?
การกดสิวอุดตันดีไหม?
กดสิวแล้วอักเสบไหม?
กดสิวบ่อยแค่ไหน?
กดสิวเจ็บไหม?
—กดสิวดีอย่างไร
การกดสิวมีข้อดีต่างๆดังนี้
1. สามารถกำจัดสิวอุดตันได้อย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับการกินยาและทายา
2. ไม่เกิดการเเพ้ยา หรือผลข้างเคียงจากการทายาหรือกินยา เช่น การกินยารักษาสิว Roaccutane (Isotretinoin Capsules) อาจทำให้เกิดอาการ
• ผิวไวต่อแสง
• ผิวแห้ง ปากแห้ง ตาแห้ง คอแห้ง
• โพรงจมูกแห้ง หรืออาจจะมีเลือดไหล
• ปวดหัว ปวดหลัง หรือปวดตามข้อ
ข้อมูลจาก National Health Service (England)
3. ช่วยให้สิวอักเสบที่มีหัวและหนองหายเร็วขึ้น
4. มีความจำเป็นในกรณีที่ต้องการฉีดสิวที่เป็นหนองและมีหัว ถ้าไม่กดเอาหัวสิวออกก่อนฉีดสิว โอกาสสิวยุบจะน้อยกว่า 50%
5. เป็นการลดโอกาสการเกิดสิวอักเสบ เนื่องจากสิวอุดตันที่อยู่ใต้ผิวหากถูกกระตุ้น เช่น แกะ หรือ การระคายเคือง ก็อาจเป็นเป็นสิวอักเสบได้
6. ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น สิวอุดตันที่อยู่ใต้ผิวหน้า เมื่อสัมผัสจะสะดุดเป็นเม็ดๆ ดังนั้นเมื่อกดออกจะทำให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น
การกดสิวอาจส่งผลเสียต่างๆดังนี้
1. อาจทำให้เกิดการอักเสบ: การกดสิวถ้ากดออกไม่หมดหรือไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดการอักเสบได้
2. อาจทำให้เป็นรอยแดง: การใช้อุปกรณ์กดสิวไม่ถูกต้องหรือใช้น้ำหนักมากเกินไป อาจทำให้ผิวบริเวณนั้นเป็นบวมแดงได้
3. อาจทำให้เกิดรอยดำ: รอยดำจากการกดสิวเกิดได้จาก
• รอยช้ำจากการใช้อุปกรณ์กดสิวไม่ถูกวิธี
• รอยดำจากเลเซอร์เปิดหัวสิวในกรณีที่เป็นคนผิวคล้ำ
• รอยดำที่เกิดจากการที่สิวอักเสบยุบหลังจากกดหัวสิวและหนองออก
4. อาจทำให้เป็นรอยหลุม: การใช้อุปกรณ์กดสิวไม่ถูกวิธี เช่น การเค้นหรือใช้น้ำหนักในการกดที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บของผิวหนังบริเวณนั้นและทำให้เกิดรอยหลุมได้
การพิจารณาว่าการกดสิวดีไหมขึ้นอยู่กับปัจจัยดังนี้
1. กดสิวแล้วต้องไม่เป็นรอย หรือเป็นน้อยที่สุดในระดับที่สามารถยอมรับได้
2. ไม่ควรมีสิวอักเสบที่เกิดหลังจากการกดสิว หรือมีในอัตราส่วนที่น้อยที่สุดในระดับที่สามารถยอมรับได้
3. การกดสิวควรไม่เจ็บ หรือเจ็บน้อยที่สุดในระดับที่สามารถยอมรับได้
หากวิเคราะห์ปัจจัยทั้งสามข้อข้างบนจะพบว่าปัจจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความสามารถและทักษะของผู้ให้บริการกดสิว ซึ่งสามารถควบคุมได้
ดั้งนั้นเมื่อพิจารณาผลดีและผลเสียของการกดสิว ร่วมกับปัจจัยในการพิจารณาการกดสิว จึงสรุปได้ว่าควรกดสิวก็ต่อเมื่อมั่นใจว่าผู้ให้บริการมีความสามารถในการกดสิวเพียงพอที่จะกดสิวแล้วไม่เกิดรอย ไม่อักเสบ และไม่เจ็บ
ข้อมูลเกี่ยวกับการแนะนำที่กดสิวดูได้จาก กดสิวที่ไหนดี?
การกดสิวอุตันเป็นการรักษาสิวอุดตันวิธีหนึ่งซึ่งได้ผลอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับการทายาหรือการกินยา การทายาจะใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์ขึ้นไปถึงจะเริ่มเห็นผล ถ้าสิวอุดตันที่มีขนาดใหญ่ การทายาจะไม่ได้ผลมากนัก และการทายาอาจทำให้ผิวแพ้หรือระคายเคืองได้ สำหรับการกินยาโดยเบื้องต้นจะใช้เวลานานกว่าการทายา และอาจมีผลข้างเคียงได้
การกดสิวอุดตันอาจเกิดการอักเสบได้ ปัจจัยที่ทำให้เกิดการอักเสบขึ้นอยู่กับ
1. รูปแบบการกดสิว: การใช้เลเซอร์ในการเปิดหัวสิวจะมีโอกาสการเกิดสิวอักเสบน้อยกว่าการใช้เข็มเปิดหัวสิว แต่การใช้เลเซอร์อาจมีรอยดำจากแผลเลเซอร์ได้
2. ทักษะการกดสิวของผู้ให้บริการ: ความสามารถและประสบการณ์ในการกดสิวมีผลกับการเกิดสิวอักเสบหลังการกดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคนิคการกดสิวที่ถูกต้องจะมีส่วนเป็นอย่างมากในการลดอัตตราการอักเสบของการกดสิว
ความถี่ในการกดสิวนั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณสิวที่เกิดใหม่ในแต่ละช่วงเวลา และอัตราการฟื้นฟูของผิวหลังการกด โดยพื้นฐานแล้วควรกดสิวตามเกณฑ์นี้
• ทุก 1 สัปดาห์ ในกรณีที่ต้องการรักษาสิว
• ทุก 1 เดือน ในกรณีที่ต้องการดูแลผิว
หนึ่งในปัญหาของการกดสิวคือความกังวลว่าการกดสิวจะเจ็บมาก จริงๆแล้วความเจ็บของการกดสิวขึ้นอยู่กับปัจจัย 3 อย่างดังนี้
1. รูปแบบการกดสิว: การเปิดหัวสิวด้วยเข็มอย่างถูกวิธีจะเจ็บน้อยกว่าการเปิดหัวสิวด้วยเลเซอร์
2. วิธีการกดสิว: การกดสิวที่ถูกวิธีจะใช้น้ำหนักในการกดที่น้อย ส่งผลให้ไม่เจ็บมาก ในทางตรงกันข้ามการเปิดหัวไม่ถูกต้องและการวางตำแหน่งอุปกรณ์กดสิวไม่ถูกวิธีทำให้ต้องเค้นเอาหัวสิวออก ทำให้เจ็บมาก
3. ความเชี่ยวชาญของผู้ปฏิบัติการ: ลักษณะของสิวอุดตันและโครงสร้างของผิวหน้าในแต่ละจุดมีผลกับวิธีและน้ำหนักในการกดสิว ผู้ปฏิบัติการที่มีความเชี่ยวชาญจะสามารถเลือกวิธีและน้ำหนักในการกดสิวให้ไม่เจ็บได้
Puttharaksa Aesthetic ได้ให้บริการกดสิวเป็นเวลามากกว่า 18 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 และได้ให้บริการกดสิวมาแล้วมากกว่า 42,482 ครั้ง ขั้นตอนและเทคนิคการกดสิวของเราได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราการอักเสบหลังจากการกดสิว น้อยกว่า 1.5% (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานอยู่ที่ 2-5%)
การกดสิวจะทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้วยความระมัดระวังเพื่อให้ เจ็บน้อยที่สุด สิวอุดตันออกหมด และรอยแดงหลังจากการกดสิวน้อยที่สุด
ราคากดสิว ที่ Puttharaksa Aesthetic อยู่ที่ 499 บาท การกดสิวเป็นส่วนหนึ่งขอโปรแกรมรักษาสิว Acne Clear Plus
สนใจเข้ารับบริการกดสิว สามารถนัดหมายออนไลน์ได้จาก Online Booking
การรักษาสิวเสี้ยนสามารถอ่านได้จาก รักษาสิวเสี้ยนที่จมูก
ต้องการรักษาสิว »
ต้องการนัดหมายเพื่อรับบริการกดสิว »
ดูข้อมูลทรีทเม้นท์หน้าทั้งหมด »
การเดินทางมาจาก อโศก | ทองหล่อ | เอกมัย | อ่อนนุช | บางจาก | อุดมสุข | บางนา | แบริ่ง
|